สถานที่ท่องเที่ยวเที่ยวสถานที่สำคัญ

พระราชวังโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

พระราชวังโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เดิมเป็นพระราชวังหลวง สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓

ท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย

พระราชวังโบราณ โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ไทย อยู่ภายในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ของไทย ที่มีความสำคัญทางประวัตฺของไทยและของโลก ที่ได้รับการยอมรับเป็นมรดกโลก เดิมเป็นพระราชวังหลวง สมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างพระที่นั่ง ๓ องค์ ได้แก่ พระที่นั่งไพฑูรย์มหาปราสาท พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท และ พระที่นั่งไอศวรรย์มหาปราสาท ในเขตวัดพระศรีสรรเพชญ์ในปัจจุบัน และ ยังโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งมังคลาภิเษกมหาปราสาทและพระที่นั่งตรีมุขขึ้นด้วย พระราชวังระยะแรกนี้ เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ๗ พระองค์ ระยะเวลา ๙๘ ปี

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นมรดกโลกของไทย พื้นที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่ ๑,๘๑๐ ไร่ ตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อุทยานฯแห่งนี้ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ในนาม นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ประวัติพระราชวังโบราณ

พระราชวังโบราณ เป็นอาณาบริเวณของพระราชวังหลวง ในสมัยพระเจ้าอู่ทอง (สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างพระที่นั่ง ๓ องค์ ได้แก่ พระที่นั่งไพฑูรย์มหาปราสาท พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท และ พระที่นั่งไอศวรรย์มหาปราสาท ในเขตวัดพระศรีสรรเพชญ์ในปัจจุบัน และ ยังโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งมังคลาภิเษกมหาปราสาทและพระที่นั่งตรีมุขขึ้นด้วย พระราชวังระยะแรกนี้ เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ๗ พระองค์ ระยะเวลา ๙๘ ปี

สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๑ ทรงยกบริเวณพระราชวังเดิม ที่เป็นพระที่นั่ง ๓ องค์นั้น ให้เป็นเขตพุทธาวาส หรือก็คือวัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วจึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายพระราชวังมาสร้างใหม่ทางด้านเหนือของพระราชวังเดิม ใกล้แม่น้ำลพบุรี คูเมืองด้านเหนือ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งเบญจรัตนมหาปราสาทและพระที่นั่งสรรเพชญ์มหาปราสาท เป็นพระที่นั่ง ๒ องค์แรก

พระที่นั่งมังคลาภิเษก หรือพระที่นั่งวิหารสมเด็จพระมหาปราสาท เป็นพระที่นั่งอีกองค์หนึ่งซึ่งสร้างในเขตพระราชวังโบราณนี้ แต่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าสร้างในรัชสมัยใด เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ๑๖ พระองค์ เป็นเวลา ๑๘๒ ปี

ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ทรงขยายพื้นที่วังหลวงให้กว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิม โดยขยายเขตพระราชวังติดกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมหาปราสาทเพิ่มอีก ๒ องค์ คือพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ และ พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์

ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงสร้างพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ขึ้นเป็นที่ประทับอีกองค์หนึ่ง ดังนั้นวังหลวงสมัยอยุธยาตอนปลายมี พระมหาปราสาทรวมทั้งสิ้น ๖ องค์ เป็นที่ประทับของ พระมหากษัตริย์ ๑๐ พระองค์ เป็นเวลา ๑๓๗ ปี จนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ ปี พ.ศ. ๒๓๑๐

การสร้างพระบรมมหาราชวังสมัยรัตนโกสินทร์ ที่กรุงเทพมหานครนั้น ได้สร้างเลียนแบบพระบรมมหาราชวังสมัยกรุงศรีอยุธยา

พื้นที่พระราชวังโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

พระราชวังโบราณ ซึ่งเป็นพระบรมมหาราชวัง ในระยะหลังมีป้อมรอบพระราชวัง ๘ ป้อม ประตูน้ำ ๒ ประตู ประตูบก ๒๐ ประตู พระราชวังหลวงแบ่งออกเป็นเขตต่าง ๆ ดังนี้

เขตพระราชฐานชั้นนอก

เขตพระราชฐานชั้นนอกเป็นที่ตั้งของ พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์ และส่วนราชการต่าง ๆ เช่น ศาลาลูกขุน ศาลหลวง ศาลาสารบัญชี เป็นต้น

เขตพระราชฐานชั้นกลาง

เขตพระราชฐานชั้นกลาง เป็นที่ตั้งของพระมหาปราสาท ๓ องค์ ได้แก่ พระที่นั่งวิหารสมเด็จ พระที่นั่งสรรเพชญ์มหาปราสาท พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของคลังมหาสมบัติ โรงช้าง โรงม้า เป็นต้น

เขตพระราชฐานชั้นใน

เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ตั้งของพระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ โรงเครื่องต้น และที่อยู่ของฝ่ายใน เป็นต้น

พระที่นั่งในเขตพระราชวังโบราณ

พระที่นั่งวิหารสมเด็จ

พระที่นั่งวิหารสมเด็จ  อยู่เขตพระราชฐานชั้นกลาง เดิมเป็นพระที่นั่งมังคลาภิเษก สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้รับราชทูตเมืองละแวก(กัมพูชา) สมเด็จพระเอกาทศรถทรงใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีประเวศพระนคร ต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระที่นั่งถูกฟ้าผ่าจนไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด พระองค์โปรดเกล้าให้รื้อและสร้างพระที่นั่งองค์ใหม่ขึ้นทดแทนใน พ.ศ. ๒๑๗๙ พระราชทานนามว่า พระที่นั่งวิหารสมเด็จ มีมุขหน้าและหลังยาว แต่มุขข้างสั้น ด้านซ้ายของพระที่นั่งมีโรงช้างเผือก

พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท

พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท หรือพระที่นั่งสรรเพชญมหาปราสาท อยู่เขตพระราชฐานชั้นกลาง เป็นพระที่นั่งองค์หนึ่งในเขตพระราชวังโบราณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของราชสำนักและเป็นที่รับแขกบ้านแขกเมืองของพระมหากษัตริย์ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รับราชทูต ฯลฯ แต่พระที่นั่งองค์นี้เสียหายทั้งองค์เมื่อการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ในปัจจุบันเหลือแต่ฐาน และกำแพงบางส่วนเท่านั้น

พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์

พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ อยู่เขตพระราชฐานชั้นกลาง เดิมชื่อ พระที่นั่งสุริยามรินทร์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเพื่อให้คล้องกับชื่อ พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท สมเด็จพระเจ้าปราสาททองโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเป็นปราสาทจตุรมุข ยกพื้นสูงกว่าพระที่นั่งองค์อื่นๆ สามารถมองเห็นข้ามกำแพงวังไปเห็นแม่น้ำ ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงใช้เป็นที่ประทับทอดพระเนตร กระบวนพยุหยาตราชลมารค และการซ้อมกระบวนยุทธ์ทางน้ำ เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ในปี พ.ศ. ๒๒๓๑ สมเด็จพระเพทราชาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมศพจากเมืองลพบุรีมาไว้ที่พระที่นั่งองค์นี้

พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์

พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์ อยู่เขตพระราชฐานชั้นนอก เป็นปราสาทโถง มีสามชั้น สำหรับเป็นที่ประทับเพื่อทอดพระเนตรกระบวนแห่มหรสพ และการยกทัพพยุหยาตราผ่านบริเวณสนามไชยซึ่งอยู่หน้าพระที่นั่ง สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๕ โดยสร้างเป็นปราสาทตรีมุขที่มุมกำแพงชั้นในของเขตพระราชฐานติดกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระราชทานนามว่า “พระที่นั่งศิริยโสธรมหาพิมานบรรยงก์” กาลต่อมา สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงพระสุบิน (ฝัน) ว่า สมเด็จพระอมรินทราธิราชเสด็จลงมานั่งแทบพระองค์และตรัสให้ตั้งจักรพยุหแล้วจึงหายไป เมื่อพระองค์เสด็จออกขุนนางทรงตรัสเล่าพระสุบินให้พระโหราพฤฒาจารย์ทั้งหลายฟัง พระมหาราชครูปโรหิตโหราพฤฒาจารย์ทูลว่า พระนามพระที่นั่งศิริยโสธรมหาพิมานบรรยงก์ที่พระราชทานนั้นเห็นไม่ต้องนามสมเด็จพระอมรินทราธิราชซึ่งลงมาบอกให้ตั้งจักรพยุห ซึ่งจักรพยุหนี้เป็นที่ตั้งใหญ่ในมหาพิไชยสงคราม จึงขอให้นำนามจักรนี้ให้เป็นนามของมหาปราสาทว่า “พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์มหาปราสาท” สมเด็จพระเจ้าปราสาททองจึงโปรดให้เปลี่ยนนามมหาปราสาทตามคำกราบบังคมทูลของโหราพฤฒาจารย์

พระที่นั่งตรีมุข

พระที่นั่งตรีมุข  เป็นพระที่นั่งศาลาไม้ หลังคามุงกระเบื้องดินเผา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท ไม่ปรากฏปีที่สร้าง เข้าใจว่าเดิมเป็นพระที่นั่งฝ่ายใน และเป็นที่ประทับในอุทยาน เป็นพระที่นั่งองค์เดียวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงให้สร้างพลับพลาตรีมุข เพื่อประกอบพระราชพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์ ในวาระที่พระองค์ครองราชย์ครบ ๔๐ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑ ซึ่งเป็นเวลายาวนานเท่ากับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา

พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ (พระที่นั่งท้ายสระ)

พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ หรือ พระที่นั่งท้ายสระ อยู่เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นพระที่นั่งขนาดเล็ก ตั้งอยู่ภายในพระราชวังหลวง ในยุคที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สร้างขึ้นโดย สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งราชวงศ์ปราสาททอง ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นสำหรับใช้เป็นที่ประทับและสำราญพระราชหฤทัย โดยสร้างเป็นปราสาทจตุรมุขตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำ

พระที่นั่งทรงปืน

พระที่นั่งทรงปืน  เป็นพระที่นั่งรูปยาวรี อยู่ริมสระน้ำด้านตะวันตก ใกล้พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ เข้าใจว่าเป็นที่สำหรับฝึกซ้อมอาวุธและในสมัยสมเด็จพระเพทราชา ทรงใช้เป็นท้องพระโรงที่เสด็จออกขุนนาง

  • พระราชวังจันทรเกษม
  • วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร
  • วัดโลกยสุธาราม
  • วัดธรรมิกราช
  • วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร
  • วัดสวนหลวงสบสวรรค์
  • กำแพงและป้อมปราการกรุงเก่า
  • วัดไชยวัฒนาราม
  • วัดพุทไธศวรรย์
  • วัดหน้าพระเมรุ
  • วัดใหญ่ชัยมงคล
  • วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
  • วัดพนัญเชิง
  • วัดกุฎีดาว
  • วัดดุสิดาราม
  • วัดภูเขาทอง
  • วัดพระยาแมน
  • หมู่บ้านโปรตุเกส
  • หมู่บ้านฮอลันดา
  • หมู่บ้านญี่ปุ่น
  • เพนียดคล้องช้าง
  • โบสถ์นักบุญยอแซฟ

สถานที่สำคัญเหล่านี้เป็นสถานที่ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากไม่ได้มีการเสนอขอขยายเขตที่ดินตามประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณเพิ่มเติมให้เป็นมรดกโลก

ข้อมูลท่องเที่ยว พระราชวังโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา

พิกัดที่ตั้ง พระราชวังโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา

การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวพระราชวังโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา

จากกรุงเทพฯ เดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้หลายเส้นทาง ดังนี้

- เส้นทางแรก ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- เส้นทางที่สอง  ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) ข้ามสะพานนนทุรี หรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานี ต่อด้วยเส้นทางปทุมธานี-สามโคก-เสนา (ทางหลวงหมายเลข 3111) แล้วแยกขวาที่อำเภอเสนา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3267 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- เส้นทางที่สาม ใช้ทางหลวงหมายเลข 306 เส้นทางกรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี ถึงทางแยกสะพานปทุมธานี เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 347 แล้วไปแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3309 ผ่านศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร อำเภอบางปะอิน เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

อัตราค่าเข้าชม

ค่าเข้าชม คนละ ๑๐ บาท (เด็ก / ผู้สูงอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป / พระภิกษุ ไม่เสียค่าเข้าชม)

การแต่งกาย

นักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพ

เวลาทำการ (เปิด-ปิด)

เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น. 

ที่ตั้ง

สำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ในพระบรมมหาราชวัง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

ติดต่อ

โทรศัพท์ : 02-226 0251-9 ext. 2213 , 2210
โทรสาร : 02-225 9158
เว็บไซต์ : emuseum.treasury.go.th

*ที่มา: เว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org), เว็บไซต์มิวเซียมสยาม (museumsiam.org) และเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
Shares:
ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *