พระราชพิธีวันสำคัญของไทย

วันพืชมงคล 2567 สัญญาณฤดูกาลแห่งการเพาะปลูกเริ่มต้นขึ้นแล้ว

วันพืชมงคล 2567 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 เป็นวันสำคัญของไทยวันหนึ่ง เป็นวันที่มีการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพระราชพิธีเก่ามาแต่โบราณ จุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างขวัญและกําลังใจแก่เกษตรกรของชาติ เป็นการระลึกถึงความสําคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยมีการจัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มีสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งพระราชพิธีนี้จะกระทําที่ท้องสนามหลวง ประกอบด้วย 2 พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
วันพืชมงคล วันเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก

วันสำคัญของการเกษตรไทย จัดเพื่อเสริมสร้างขวัญและกําลังใจแก่เกษตรกรของประเทศ

วันพืชมงคล เป็นวันสำคัญของไทยวันหนึ่ง เป็นวันที่มีการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพระราชพิธีเก่ามาแต่โบราณ จุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างขวัญและกําลังใจแก่เกษตรกรของชาติ เป็นการระลึกถึงความสําคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยมีการจัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มีสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งพระราชพิธีนี้จะกระทําที่ท้องสนามหลวง ประกอบด้วย 2 พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล เป็นวันสำคัญของประเทศไทย เป็นวันหยุดราชการประจำปีอีกวันหนึ่งของไทย ทุกหน่วยงานของรัฐ โรงพยาบาลรัฐ โรงเรียน หยุดทำการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๑๐ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จวันพืชมงคล ๒๕๖๕
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จวันพืชมงคล 2565

วันพืชมงคล ปี พ.ศ.2565

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เนื่องในวันพืชมงคล ประจำปี 2565 ณ มณฑลท้องสนามหลวง

คำพยากรณ์การเสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยง วันพืชมงคล ๒๕๖๕

ผลการเสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยง วันพืชมงคล 2565 จากของกิน 7 สิ่งที่ตั้งเลี้ยงพระโค ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเขียว งา เหล้า น้ำ และหญ้า ในวันพืชมงคล 2565 พระโคเสี่ยงทาย พระโคพอ-พระโคเพียง ได้เลือกกิน 4 อย่าง คือ น้ำและหญ้า, ถั่ว, เหล้า โหรหลวงถวายคำพยากรณ์ หรือคำทำนาย ดังนี้

  • พระโคกินน้ำ และ หญ้า พยากรณ์ น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหารผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ดี
  • พระโคกิน ถั่ว พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหารจะอุดมสมบูรณ์ดี
  • พระโคกิน เหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศจะดีขึ้น เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง

ความสำคัญของวันพืชมงคล

การเกษตรกรรม มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมวลมนุษย์อย่างมาก เพราะธัญญาหารที่บรรดาเหล่าเกษตรกรปลูกได้ในแต่ละปี ผลผลิตทางการเกษตรถูกนำมาใช้เป็นอาหาร ดัดแปลงเป็นอุปโภคต่าง ๆ เช่น ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค

วันพืชมงคล เป็นวันที่จัดขึ้นตามจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างขวัญและกําลังใจแก่เกษตรกรของชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงความสําคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากเห็นความสำคัญของการเมล็ดพืชพันธุ์อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อวิถีการผลิตแบบพึ่งพิงธรรมชาติ นอกเหนือจาการมีแผนดินที่อุดมสมบูรณ์ บริมาณน้ำฝนที่เพียงพอต่อการเพาะปลูก และปัจจัยอื่น ๆ แล้ว หากได้เมล็ดพืชพันธุ์ที่ได้รับการเลือกสรร รวมทั้งเกษตรกรมีขวัญกำลังใจ มีความเชื่อมั่นในการเพาะปลูก ทางราชการหรือผู้ปกครองตนให้การดูแลเอาใจใส่ การเกษตรของประเทศจะพัฒนามากยิ่งขิ้น ย่อมได้ผลผลิตที่ดีขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ทุกปีทางราชการจึงจัดให้มีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้น โดยกำหนดในเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ตามประกาศสำนักพระราชวัง

ประวัติพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธี 2 พิธีรวมกัน คือ พระราชพิธีพืชมงคล อันเป็นพิธีสงฆ์ อย่างหนึ่ง ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีวันแรกในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ อันเป็นพิธีพราหมณ์ อย่างหนึ่ง ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีในวันรุ่งขึ้น ณ มณฑลพิธีสนามหลวง

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธีที่มีมาแต่โบราณตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในสมัยกรุงสุโขทัยนั้น พระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น ครั้งถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ ไม่ได้เสด็จไปเป็นองค์ประธาน เหมือนกับสมัยกรุงสุโขทัย และจะทรงจำศีลเงียบ 3 วัน แต่จะมอบอาญาสิทธิ์ให้ เจ้าพระยาจันทกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ โดยทรงทำเหมือนอย่างออกอำนาจจากพระมหากษัตริย์ ซึ่งวิธีนี้ได้ใช้ตลอดมาถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา

สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการประกอบพระราชพิธีนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แต่ผู้ทำการแรกนาเปลี่ยนเป็นเจ้าพระยาพลเทพ คู่กันกับการยืนชิงช้า แต่พอถึงรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ให้ถือว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้นั้นเป็นผู้แรกนา ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดมีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ ทุกพิธี ดังนั้น พระราชพิธีพืชมงคล จึงได้เริ่มมีขึ้น แต่บัดนั้นมา โดยได้จัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีชื่อเรียกรวมกันว่า พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

ความมุ่งหมายอันเป็นมูลเหตุให้เกิดมีพระราชพิธีนี้ขึ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชนิพนธ์เรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือน ว่า

“การแรกนาที่ต้องเป็นธุระของผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในแผ่นดินเป็นธรรมเนียมนิยม มีมาแต่โบราณ เช่น ในเมืองจีนสี่พันปีล่วงมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็ลงทรงไถนาเองเป็นคราวแรก พระมเหสี เลี้ยงตัวไหม ส่วนจดหมายเรื่องราวอันใดในประเทศสยามนี้ ที่มีปรากฏอยู่ในการแรกนานี้ ก็มีอยู่เสมอเป็นนิตย์ ไม่มีเวลาว่างเว้น ด้วยการซึ่งผู้นั้นเป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือทำเองเช่นนี้ ก็เพื่อจะให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎรชักนำให้มีใจหมั่นในการที่จะทำนา เพราะเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะได้อาศัยเลี้ยงชีวิตทั่วหน้า เป็นต้นเหตุของความตั้งมั่นและความเจริญไพบูลย์ แห่งพระนครทั้งปวง แต่การซึ่งมีพิธีเจือปนต่างๆ ไม่เป็นแต่ลงมือไถนาเป็นตัวอย่าง เหมือนอย่างชาวนาทั้งปวงลงมือไถนาของตนตามปกติ ก็ด้วยความหวาดหวั่นต่ออันตราย คือ น้ำฝนน้ำท่ามากไปน้อยไป ด้วงเพลี้ยและสัตว์ต่างๆ จะบังเกิดเป็นเหตุอันตราย ไม่ให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิ และมีความปรารถนาที่จะให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิเป็นกำลัง จึงต้องหาทางที่จะแก้ไขและหาทางที่จะอุดหนุนและที่จะเสี่ยงทายให้รู้ล่วงหน้า จะได้เป็นที่มั่นอกมั่นใจโดยอาศัยคำอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้งบ้าง ทำการซึ่งไม่มีโทษ นับว่าเป็นการสวัสดิมงคลตามซึ่งมาในพระพุทธศาสนาบ้าง บูชาเซ่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์บ้าง ให้เป็นการช่วยแรงและเป็นที่มั่นใจตามความปรารถนาของมนุษย์ซึ่งคิดไม่มีที่สิ้นสุด”

พระบรมราชาธิบายในพระราชนิพนธ์เรื่อง พระราชพิธีสิบสองเดือน ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

การกำหนดวันพืชมงคล

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีการเพื่อความเป็นสิริมงคลและบำรุงขวัญเกษตรกร กำหนดจัดขึ้นในเดือนหกของทุกปี ซึ่งระยะนี้เป็นระยะเหมาะสมที่จะเริ่มต้นการทำนา อันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทย แต่ไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอนไว้เหมือนกับวันในพระราชพิธีอื่น ส่วนจะเป็นวันใดในเดือนหก หรือเดือนพฤษภาคมที่มีฤกษ์ยามที่เหมาะสมต้องตามประเพณีก็ให้จัดขึ้นในวันนั้น โดยการกำหนดวันพืชมงคลในรอบ 10 ปี โดยสำนักพระราชวัง

  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2567 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 (วันขึ้น 3 ค่ำ เดือนหก)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2566 ตรงกับ วันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2566 (วันแรม 13 ค่ำ เดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2565 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 (วันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2564 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 (วันแรม 14 ค่ำ เดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2563 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563 (วันแรม 5 ค่ำ เดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2562 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2562 (วันขึ้น 6 ค่ำเดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2561 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม 2561 (วันแรม 15 ค่ำเดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2560 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 25560 (วันแรม 2 ค่ำเดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2559 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2559 (วันขึ้น 4 ค่ำเดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2558 ตรงกับ วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2558 (วันแรม 11 ค่ำเดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2557 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม2557 (วันขึ้น 11 ค่ำเดือน 6)
  • วันพืชมงคล ปี พ.ศ. 2556 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2556 (วันขึ้น 4 ค่ำเดือน 6)

ที่มาข้อมูลและรูปภาพ:

  • เว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org)
  • เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (kpi.ac.th)

Shares:
ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *