วันสำคัญของไทยอีกวันหนึ่ง เพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย”
วันที่ 24 กันยายน ของทุกปี เป็นวันมหิดล เพื่อน้อมรำลึก วันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” วันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่านเมื่อ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2472
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2434 และเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2472 มีพระนามเดิมว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พระองค์ท่านเป็นพระบรมราชชนกในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เป็นพระราชอัยกาในพระบาทสมเด็จพระ วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10)
พระองค์ทรงศึกษา วิชาทหารเรือ ที่ประเทศเยอรมนี แล้วเสด็จกลับมารับราชการทหารเรือ ต่อมาทรงมีอาการประชวรไม่สามารถรับราชการหนักได้ ประกอบกับทรงสนพระทัยทางด้านการแพทย์ จึงทรงวิริยะอุตสาหะเสด็จไปศึกษาวิชาสาธารณสุขและวิชาการแพทย์ ณ สหรัฐอเมริกา ทรงสอบได้ประกาศนียบัตรการสาธารณสุข และปริญญาแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
เมื่อเสด็จกลับมาเมืองไทย พระองค์ได้ทรงประกอบพระกรณ๊ยกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างมากมาย ได้แก่ ทรงเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ ทรงช่วยเหลือในการขยายกิจการของโรงพยาบาลศิริราช ประทานทรัพย์สินส่วนพระองค์จัดสร้างตึกคนไข้และจัดหาที่พักสำหรับพยาบาล ทรงบริจาคทรัพย์เป็นทุนให้นักศึกษาแพทย์และพยาบาลไปศึกษาต่อต่างประเทศ ประทานเงินเพื่อจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล ทรงเป็นผู้แทนรัฐบาลติดต่อกับมูลนิธิรอคกี้เฟลเลอร์ สาขาเอเชียบูรพา ในการปรับปรุงและวางมาตรฐานการศึกษา และทรงอุทิศเวลาส่วนใหญ่ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยพระองค์เอง จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระบิดาแห่งการแพทย์และการสาธารณสุขไทย”
ในปี พ.ศ. 2493 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บรรดาศิษย์เก่าศิริราช ผู้ที่ได้รับทุนของพระองค์ไปศึกษา ณ ต่างประเทศ ผู้ที่เคยได้รับพระมหากรุณาในประการอื่นๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ร่วมใจกันสร้างพระราชานุสาวรีย์ขึ้น โดยประดิษฐานไว้ ณ ใจกลางโรงพยาบาลศิริราช เพื่อน้อมเกล้าถวายความกตัญญูกตเวที ด้วย สำนึกในพระเมตตาคุณของพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจแก่วงการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทย ได้มอบให้กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยมีศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี เป็นผู้ควบคุมงาน ซึ่งพระราชานุสาวรีย์นี้ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมครั้งแรกเมื่อปี 2517 และอีกครั้งในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่โดยสร้างรากฐานและบริเวณโดยรอบทั้งหมดเพื่อให้ถาวร สง่างามและสมพระเกียรติยิ่งขึ้น ดังที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินในพิธีเปิดพระราชานุสาวรีย์เมื่อวันที 24 เมษายน พ.ศ. 2493
หลังจากนั้น 1 ปี วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2494 นักศึกษาแพทย์ได้ริเริ่มจัดงานเป็นครั้งแรก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต และได้ขนานนามวันสำคัญนี้ว่า “วันมหิดล” เพื่อเป็นการถวายสักการะ และน้อมรำลึกต่อพระองค์ท่าน และนับตั้งแต่ปี 2494 เป็นต้นมา ทุกวันที่ 24 กันยายน จะเป็นวันมหิดล มีกิจกรรมที่สำคัญคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินทรงวางพวงมาลา ณ พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จฯ พระบรมราชชนก ภายในโรงพยาบาลศิริราช มีพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระรูป พร้อมทั้งอ่านคำสดุดีพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นประจำทุกปี
พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
“ ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเปนที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษเปนกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตามมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพย์ไว้ให้บริสุทธิ “
พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย
” ความสำเร็จของการศึกษาที่แท้จริง
พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีความรู้มาก
แต่ขึ้นอยู่กับการนำเอาความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้
ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมได้มากเพียงไร “
” ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอเป็นเพียงหมอเท่านั้น
พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย
แต่ฉันต้องการให้พวกเธอมีความเป็นมนุษย์ด้วย “
เสด็จสวรรคต
หลังพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระองค์ทรงพระประชวรต้องประทับในพระตำหนักวังสระปทุม และสวรรคตเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 เวลา 16.45 น. ด้วยพระโรคฝีบิดในพระยกนะ (ตับ) โดยมีโรคแทรกซ้อน คือ พระปัปผาสะบวมน้ำ (ปอดบวมน้ำ)และพระหทัยวาย พระชนมายุได้ 37 พรรษา 8 เดือน 23 วัน
กิจกรรมวันมหิดล 24 กันยายน ของทุกปี
- การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องใน “วันมหิดล” หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยสามารถลงทะเบียนวางพวงมาลาล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ www.si.mahidol.ac.th/th/mahidolday/
- กิจกรรมการรับบริจาคเงินพร้อมมอบธงวันมหิดลเป็นที่ระลึก ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2503 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคและรับธงที่ระลึกวันมหิดล ได้ที่
- ศิริราชมูลนิธิ 1) ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 07.30 – 17.30 น. วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 – 16.30 น. 2) รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ชั้น 2 โซน B
ทุกวัน เวลา 09.00 – 15.30 น. 3) ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ชั้น G วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. หยุดวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 419 7658 – 60, 02 414 1414 และ 02 419 7688 โทรสาร 02 419 7687 E-mail: donation@sirirajfoundation.org และ Line: @sirirajfoundation
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ:
- เว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org)
- เว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (si.mahidol.ac.th)
- เว็บไซต์หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี (finearts.go.th/chantaburilibrary/)
- สารสนเทศสมาคมศิษย์เก่าบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ฉ.๖ ปี ๒๕๔๔